ปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่ประชากรนิยมปั่นจักรยานเพื่อการเดินทาง
สมัยที่เราเรียนอยู่ก็เดินทางจากหอพักไปมหาวิทยาลัยโดยจักรยานเป็นส่วนใหญ่
ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ถ้านั่งรถไฟก็ประมาณ 160 เยนต่อเที่ยว
ช่วง3-4 ปีก่อนก็ประมาณ 50 กว่าบาท วันนึงหนึ่งร้อยกว่าบาทเลย
เมื่อคิดไปคิดมาว่าจะต้องไปกลับมหาวิทยาลัย 3 ปีกว่าๆ
เลยตัดสินใจซื้อจักรยาน
จริงๆก็ชอบปั่นอยู่แล้ว ได้ออกกำลังกาย แถมประหยัดค่ารถไฟด้วย คุ้มมาก^^
ระบบจักรยานที่ญี่ปุ่น แตกต่างกับที่ไทยมาก
คือ จักรยานที่โน่นจะต้องลงทะเบียนทุกคัน มีสติ๊กเกอร์ทะเบียนแบบทะเบียนรถยนต์เลย
และมีกฏระเบียบ (กฏหมายของจักรยาน) ที่บังคับใช้โดยเฉพาะ
จึงขอเล่าให้ทุกคนได้อ่านกัน
ลงทะเบียนจักรยาน
จักรยานเราซื้อที่ร้าน พอซื้อแล้วก็ต้องลงทะเบียน ทางร้านจะจัดการให้
เสียค่าธรรมเนียม 500 เยน (ถ้าจำไม่ผิดนะ > <)
เราจะได้สติ๊กเกอร์มาติดที่ตัวรถ คราวนี้ถ้าหาย หรือจอดผิดที่เค้าก็จะตรวจสอบได้
(เพื่อนเคยทำหาย ได้คืนนะจ๊ะ ^^)
ทะเบียนจักรยานจะบอก เขตที่อยู่ และเลขเรียง
ไม่แน่ใจว่าจังหวัดอื่นๆจะเป็นแบบเดียวกันหรือป่าวนะ
กฏหมายจักรยาน
ด้วยที่ว่าผู้คนใช้จักรยานกันเยอะ เลยต้องมีกฏระเบียบมาควบคุมเพื่อความปลอดภัยกันหน่อย
ซึ่งที่ผ่านมาไม่กี่วันมานี้ ญี่ปุ่นได้ประกาศกฏหมายใหม่สำหรับนักปั่นจักรยาน
มีข้อห้ามและบทลงโทษหลายอย่าง
ทำให้นึกถึงซองกระดาษทิชชูที่เคยได้รับแจกมาจากเขตที่อยู่
นอกจากได้ทิชชูแล้ว ยังมีแผ่นกระดาษที่แจ้งเตือนเรื่องการปั่นจักรยาน
เช่น บอกให้เปิดไฟเวลาปั่นกลางคืน ห้ามกางร่มแล้วปั่นจักรยาน ห้ามคุยโทรศัพท์ขณะปั่น เป็นต้น
โทษปรับเยอะเลย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยกับคนปั่นจักรยานและคนเดินเท้า
สำหรับการจอดจักรยานตามที่ต่างๆ เช่นสถานีรถไฟ ซุปเปอร์มาเก็ต ก็จะมีที่สำหรับจอดไว้บริการ
บางแห่งจอดฟรี 2-3 ชั่วโมงแรก จอดนานก็เก็บตังค์หน่อย
มีแบบที่จอดประจำ ก็อาจจะจ่ายค่าจอดปีละครั้งแล้วได้สติ๊กเกอร์มาติดที่จักรยาน
เวลาไปญี่ปุ่นลองสังเกตจักรยานเค้าดู บางคันสติ๊กเกอร์เพียบเลย ^^
แต่ก็มีหลายคนจอดตามข้างถนน อาจจะเจอป้ายเตือนก่อนประมาณนี้
หรืออาจจะไม่เจอจักรยานเราจอดอยู่เพราะถูกยกไปแล้วก็ได้ ต้องไปติดต่อป้อมตำรวจเองนะ
ต้องเสียค่าไถ่ และที่ที่เอาจักรยานไปเก็บไว้อาจจะอยู่ไกลบ้าน ต้องปั่นกลับกันยาวเลยก็มี
ปกติเราจะจอดจักรยาน 2 ที่ คือ ที่หอพัก และที่มหาวิทยาลัย
-ที่หอพัก ก็จอดใต้หอ มีที่ว่างอยู่หน่อย จอดได้พอดีเลย เลยยึดที่ซะ ^^
ช่วงแรกๆ ตอนเรากลับไทย ก็กลัวจักรยานจะหาย เลยยกมาเก็บไว้ในห้อง (ห้องอยู่ชั้น2)
ห้องก็เล็กมากกก ยังจะขนขึ้นมาไว้อีก
ตอนหลัง เลยไม่ยกล่ะ เสี่ยงดู ก็ไม่หายนะ กลับไทยเป็นเดือนก็ยังจอดอยู่ที่เดิม^^;
-ที่มหาวิทยาลัย จอดได้ทุกที่ที่มีป้ายให้จอด แต่ แต่ แต่....
ต้องเสียค่าจอดนะ ที่โตไดเสีย ปีละ 1000 เยน
ช่วงต้นปีการศึกษา (เมษา) จะมีป้ายมาติดเตือนก่อนว่าต้องลงทะเบียน
เวลาลงทะเบียนก็ไปติดต่อที่สหกรณ์ของมหาวิทยาลัย เค้าจะให้เรากรอกเลขทะเบียนจักรยาน
ข้อมูลชื่อเรา คณะ และอื่นๆ เสียเงิน 1000 เยน แล้วก็จะได้สติ๊กเกอร์มา ติดไว้ที่รถจักรยานเรา
ถ้าเข้ากลางเทอมก็ต้องทำเช่นเดียวกัน แต่ก็หมดเขต ประมาณมีนาเหมือนกัน
ของเราก็สะสมมา 4 ดวง จบได้ล่ะ ^^
อ้อ สติ๊กเกอร์นี้ติดแล้วจะลอกไปติดคันอื่นไม่ได้นะ
เพราะลอกออกปุ๊ปมันจะขึ้นลายบางอย่าง
เอาไปใช้ต่อไม่ได้ทันที O-O สุดยอดอ่ะ
แถมท้าย มีรถซ่อมจักรยานเคลื่อนที่ด้วยนะ
สะดวกสบายเลยล่ะ ^^
หลายๆที่ในญี่ปุ่นมีจักรยานให้เช่า ถ้าอยากมีประสบการณ์ปั่นๆ ก็ลองดูนะคะ
แต่อย่าลืมปฏิบัติตัวให้ถูกต้องด้วยล่ะ
อยากให้เมืองไทยมีทางจักรยาน และทุกคนเคารพกฏจราจรจังเลย -/\-
#ปั่นจักรยาน #ญี่ปุ่น
สมัยที่เราเรียนอยู่ก็เดินทางจากหอพักไปมหาวิทยาลัยโดยจักรยานเป็นส่วนใหญ่
ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ถ้านั่งรถไฟก็ประมาณ 160 เยนต่อเที่ยว
ช่วง3-4 ปีก่อนก็ประมาณ 50 กว่าบาท วันนึงหนึ่งร้อยกว่าบาทเลย
เมื่อคิดไปคิดมาว่าจะต้องไปกลับมหาวิทยาลัย 3 ปีกว่าๆ
เลยตัดสินใจซื้อจักรยาน
จริงๆก็ชอบปั่นอยู่แล้ว ได้ออกกำลังกาย แถมประหยัดค่ารถไฟด้วย คุ้มมาก^^
ระบบจักรยานที่ญี่ปุ่น แตกต่างกับที่ไทยมาก
คือ จักรยานที่โน่นจะต้องลงทะเบียนทุกคัน มีสติ๊กเกอร์ทะเบียนแบบทะเบียนรถยนต์เลย
และมีกฏระเบียบ (กฏหมายของจักรยาน) ที่บังคับใช้โดยเฉพาะ
จึงขอเล่าให้ทุกคนได้อ่านกัน
ลงทะเบียนจักรยาน
จักรยานเราซื้อที่ร้าน พอซื้อแล้วก็ต้องลงทะเบียน ทางร้านจะจัดการให้
เสียค่าธรรมเนียม 500 เยน (ถ้าจำไม่ผิดนะ > <)
เราจะได้สติ๊กเกอร์มาติดที่ตัวรถ คราวนี้ถ้าหาย หรือจอดผิดที่เค้าก็จะตรวจสอบได้
(เพื่อนเคยทำหาย ได้คืนนะจ๊ะ ^^)
ทะเบียนจักรยานจะบอก เขตที่อยู่ และเลขเรียง
ไม่แน่ใจว่าจังหวัดอื่นๆจะเป็นแบบเดียวกันหรือป่าวนะ
กฏหมายจักรยาน
ด้วยที่ว่าผู้คนใช้จักรยานกันเยอะ เลยต้องมีกฏระเบียบมาควบคุมเพื่อความปลอดภัยกันหน่อย
ซึ่งที่ผ่านมาไม่กี่วันมานี้ ญี่ปุ่นได้ประกาศกฏหมายใหม่สำหรับนักปั่นจักรยาน
มีข้อห้ามและบทลงโทษหลายอย่าง
ทำให้นึกถึงซองกระดาษทิชชูที่เคยได้รับแจกมาจากเขตที่อยู่
นอกจากได้ทิชชูแล้ว ยังมีแผ่นกระดาษที่แจ้งเตือนเรื่องการปั่นจักรยาน
เช่น บอกให้เปิดไฟเวลาปั่นกลางคืน ห้ามกางร่มแล้วปั่นจักรยาน ห้ามคุยโทรศัพท์ขณะปั่น เป็นต้น
โทษปรับเยอะเลย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยกับคนปั่นจักรยานและคนเดินเท้า
สำหรับการจอดจักรยานตามที่ต่างๆ เช่นสถานีรถไฟ ซุปเปอร์มาเก็ต ก็จะมีที่สำหรับจอดไว้บริการ
บางแห่งจอดฟรี 2-3 ชั่วโมงแรก จอดนานก็เก็บตังค์หน่อย
มีแบบที่จอดประจำ ก็อาจจะจ่ายค่าจอดปีละครั้งแล้วได้สติ๊กเกอร์มาติดที่จักรยาน
เวลาไปญี่ปุ่นลองสังเกตจักรยานเค้าดู บางคันสติ๊กเกอร์เพียบเลย ^^
แต่ก็มีหลายคนจอดตามข้างถนน อาจจะเจอป้ายเตือนก่อนประมาณนี้
หรืออาจจะไม่เจอจักรยานเราจอดอยู่เพราะถูกยกไปแล้วก็ได้ ต้องไปติดต่อป้อมตำรวจเองนะ
ต้องเสียค่าไถ่ และที่ที่เอาจักรยานไปเก็บไว้อาจจะอยู่ไกลบ้าน ต้องปั่นกลับกันยาวเลยก็มี
ปกติเราจะจอดจักรยาน 2 ที่ คือ ที่หอพัก และที่มหาวิทยาลัย
-ที่หอพัก ก็จอดใต้หอ มีที่ว่างอยู่หน่อย จอดได้พอดีเลย เลยยึดที่ซะ ^^
ช่วงแรกๆ ตอนเรากลับไทย ก็กลัวจักรยานจะหาย เลยยกมาเก็บไว้ในห้อง (ห้องอยู่ชั้น2)
ห้องก็เล็กมากกก ยังจะขนขึ้นมาไว้อีก
ตอนหลัง เลยไม่ยกล่ะ เสี่ยงดู ก็ไม่หายนะ กลับไทยเป็นเดือนก็ยังจอดอยู่ที่เดิม^^;
-ที่มหาวิทยาลัย จอดได้ทุกที่ที่มีป้ายให้จอด แต่ แต่ แต่....
ต้องเสียค่าจอดนะ ที่โตไดเสีย ปีละ 1000 เยน
ช่วงต้นปีการศึกษา (เมษา) จะมีป้ายมาติดเตือนก่อนว่าต้องลงทะเบียน
เวลาลงทะเบียนก็ไปติดต่อที่สหกรณ์ของมหาวิทยาลัย เค้าจะให้เรากรอกเลขทะเบียนจักรยาน
ข้อมูลชื่อเรา คณะ และอื่นๆ เสียเงิน 1000 เยน แล้วก็จะได้สติ๊กเกอร์มา ติดไว้ที่รถจักรยานเรา
ถ้าเข้ากลางเทอมก็ต้องทำเช่นเดียวกัน แต่ก็หมดเขต ประมาณมีนาเหมือนกัน
ของเราก็สะสมมา 4 ดวง จบได้ล่ะ ^^
อ้อ สติ๊กเกอร์นี้ติดแล้วจะลอกไปติดคันอื่นไม่ได้นะ
เพราะลอกออกปุ๊ปมันจะขึ้นลายบางอย่าง
เอาไปใช้ต่อไม่ได้ทันที O-O สุดยอดอ่ะ
แถมท้าย มีรถซ่อมจักรยานเคลื่อนที่ด้วยนะ
สะดวกสบายเลยล่ะ ^^
หลายๆที่ในญี่ปุ่นมีจักรยานให้เช่า ถ้าอยากมีประสบการณ์ปั่นๆ ก็ลองดูนะคะ
แต่อย่าลืมปฏิบัติตัวให้ถูกต้องด้วยล่ะ
อยากให้เมืองไทยมีทางจักรยาน และทุกคนเคารพกฏจราจรจังเลย -/\-
#ปั่นจักรยาน #ญี่ปุ่น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น