Seishun18 Trip : Tokyo - Okayama - Hiroshima (Part 4)
มาแล้วจ้าภาคจบกับทัวร์ "ตั๋ว18"
วันที่สามของการเดินทาง หลังจากเต็มอิ่มกับดอกไม้ไฟเมื่อคืนแล้ว
วันนี้เราจะไปซึมซับความทรงจำอันแสนโหดร้ายในอดีตของเมืองฮิโรชิม่ากันต่อ
เนื่องจากสี่สาวแกร่ง ซื้อ"ตั๋ว18"มาเพียง 2 ใบ คือสามารถใช้ได้ 10 ครั้ง
เราเดินทางมาสองวันแล้ว หมดไป 8 ครั้งสำหรับสี่คน
วันสุดท้ายเราจะเสียค่ารถไฟเพิ่มสำหรับ 2 คน ตามราคาจริง แล้วค่อยมาหารสี่ เพื่อช่วยกันจ่าย
ออกเดินทางแต่เช้าจากสถานีที่พัก ไปสถานี Hiroshima พร้อมสัมภาระทั้งหมดมาฝากล็อกเกอร์ไว้ที่สถานีฮิโรชิม่านี้ เพื่อไม่ใช้สัมภาระ มาเป็นภาระในการเที่ยว - -" คำว่า ภาระ เยอะจัง เริ่มงงเอง
เรามีเวลาไม่มากนัก เพราะบ่ายๆ เราต้องเดินทางไป โอคายาม่า เพื่อขึ้นบัสกลับโตเกียว
จึงจะไปเฉพาะสถานที่สำคัญเท่านั้น
พอดีช่วงที่ไปมีโปรโมชั่นพิเศษ คือ บัส เมอิปุรุุ (Meipuru) สีแดงคันนี้ (แต่บางคันก็เป็นบัสธรรมดา ที่มีป้ายปิดหน้ารถว่าเป็นบัส เมอิปุรุ)
บัสท่องเที่ยวนี้ จะวิ่งวนไปเรื่อยๆ ผ่านสถานที่สำคัญเกือบทั้งหมดของเมืองนี้
ภาพข้างล่างนี้คือตารางเวลาที่สถานีฮิโรชิม่า
ราคา 200 เยนต่อเที่ยวสำหรับผู้ใหญ่ และ 400 เยนสำหรับ one day pass
แน่นอนว่าเราซื้อ แบบนั่งได้ไม่จำกัดเที่ยว (one day pass) สามารถซื้อตั๋วได้บนรถ จากคนขับรถค่ะ
ป้ายรถบัส มีลักษณะตามภาพนี้ มันคือใบเมเปิ้ลอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองฮิโรชิม่า
ที่แรกที่เราจะไปคือ สวน Shukkeien
จุดเด่นของสวนนี้คือ สะพานโค้ง อันนี้ค่ะ
สวยงาม แบบเงียบสงบ เพราะไม่ค่อยมีคน O.o ก็ดีนะไม่มีคนมาบังมุม 55+
อากาศก็ร้อนไม่ต่างจากเมื่อวาน แดดแรงมาก แบบนี้เที่ยวไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่นะ - -!
จบที่แรก ก็มารอขึ้นบัส
ที่นี่ก็มีรถรางนะ ^^
สถานที่ต่อไปคือ ปราสาทฮิโรชิม่า ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ณ จุดนั้นบอกได้คำเดียวว่า ธรรมดามาก อาจเพราะเราเห็นที่อื่นที่สวยกว่ามาก่อน
หรืออีกเหตุผลหนึ่งคือ มันร้อนมากๆๆๆๆ เดินจากป้ายรถบัสมาตั้งไกล เพื่อสิ่งนี้ - -;
เสียเวลากับที่นี่นานหน่อย ไม่ใช่เพราะปลาบปลื้ม แต่เพราะมันร้อน เลยนั่งพัก _ _;
แล้วก็เดินทางต่อ
นี่คือ บรรยากาศบนรถบัส ขึ้นแล้วไม่อยากจะลง แอร์เย็นจนจะหลับ Zzz..
ป้ายต่อไปคือ จุดท่องเที่ยวหลักของทุกคนที่มาฮิโรชิม่า
"A-Bomb dome"
สิ่งก่อสร้างที่หลงเหลือมาจาก การทิ้งระเบิดปรมาณู สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ความทรงจำที่แสนเศร้า และเจ็บปวดของเมืองนี้ มีความหนาแน่นมากบริเวณนี้
ที่นี่เป็น มรดกโลก ที่เศร้าที่สุดในญี่ปุ่น T^T
ใกล้ๆกัน เป็นบริเวณสวน Peace Memorial park และ Peace Memorial museum
ที่นี่จะมีพิธีรำลึก ทุกๆวันที่ 6 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันที่ถูกทิ้งระเบิด
ภาพนี้ถ่ายจากบนพิพิธภัณฑ์
ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ เพียง 50 เยน ถ่ายรูปได้ แต่จะไม่โพสที่blog นี้ เผื่อคุณผู้อ่านมีโอกาสเข้าไปชม
อยากให้สัมผัสด้วยตัวคุณเอง เรื่องราวที่จัดแสดงมันสามารถเรียก น้ำตา จากคุณได้
ขอให้ ผู้เสียชิวิต จากสงครามครั้งนั้นได้รับรู้ว่า พวกคุณไม่ได้จากไปโดยเปล่าประโยชน์
ลูกหลานคุณ ยังดำเนินชิวิตอยู่อย่างปกติสุข และคิดถึงพวกคุณเสมอ
ขอให้โลกนี้ไม่มีสงคราม -/\-
หลังจากเข้าถึงฮิโรชิม่าอย่างลึกซึ้งแล้ว ก็ได้เวลาโบกมือลา หวังว่าเราจะได้พบกันอีก
เดินทางมาสถานีฮิโรชิม่า เอาสัมภาระออกจากล็อกเกอร์ แล้วขึ้นรถไฟไปสถานี โอคายาม่า
พวกเราจะกลับโตเกียวด้วย บัสกลางคืน เพราะราคาไม่แพง แต่เนื่องจากที่ฮิโรชิม่ารถเต็มเราเลยต้องมาขึ้นที่โอคายาม่าแทน
ออกจากโอคายาม่า 19:45 น. หลับๆตื่นๆ มาถึงโตเกียว 6:30 น. กลับห้องไปนอนต่อ
เจอกันบทความหน้าจ้า. ^^/"
ปล สรุปค่าใช้จ่าย
- ตั๋ว 18 จำนวนสองใบ 23,000 เยน
- ค่ารถไฟจ่ายเพิ่มสองคนวันที่สาม 7,020 เยน
- ค่าบัสกลับโตเกียว 5,800 เยน/คน
- ค่าเข้าสถานที่ต่างๆประมาณ 900 เยน/คน
- ค่าที่พักสองคืน 7,095 เยน/คน
- บัส Meipuru พาส 400 เยน/คน
รวม 21,700 เยน/คน
ทั้งนี้ไม่รวมค่าTaxi ค่ากิน และของฝากนะจ๊ะ
เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายกับสถานที่ที่ไปเที่ยว มันคุ้มมากๆขอบอก ^^.
วันที่สามของการเดินทาง หลังจากเต็มอิ่มกับดอกไม้ไฟเมื่อคืนแล้ว
วันนี้เราจะไปซึมซับความทรงจำอันแสนโหดร้ายในอดีตของเมืองฮิโรชิม่ากันต่อ
เนื่องจากสี่สาวแกร่ง ซื้อ"ตั๋ว18"มาเพียง 2 ใบ คือสามารถใช้ได้ 10 ครั้ง
เราเดินทางมาสองวันแล้ว หมดไป 8 ครั้งสำหรับสี่คน
วันสุดท้ายเราจะเสียค่ารถไฟเพิ่มสำหรับ 2 คน ตามราคาจริง แล้วค่อยมาหารสี่ เพื่อช่วยกันจ่าย
ออกเดินทางแต่เช้าจากสถานีที่พัก ไปสถานี Hiroshima พร้อมสัมภาระทั้งหมดมาฝากล็อกเกอร์ไว้ที่สถานีฮิโรชิม่านี้ เพื่อไม่ใช้สัมภาระ มาเป็นภาระในการเที่ยว - -" คำว่า ภาระ เยอะจัง เริ่มงงเอง
เรามีเวลาไม่มากนัก เพราะบ่ายๆ เราต้องเดินทางไป โอคายาม่า เพื่อขึ้นบัสกลับโตเกียว
จึงจะไปเฉพาะสถานที่สำคัญเท่านั้น
พอดีช่วงที่ไปมีโปรโมชั่นพิเศษ คือ บัส เมอิปุรุุ (Meipuru) สีแดงคันนี้ (แต่บางคันก็เป็นบัสธรรมดา ที่มีป้ายปิดหน้ารถว่าเป็นบัส เมอิปุรุ)
บัสท่องเที่ยวนี้ จะวิ่งวนไปเรื่อยๆ ผ่านสถานที่สำคัญเกือบทั้งหมดของเมืองนี้
ภาพข้างล่างนี้คือตารางเวลาที่สถานีฮิโรชิม่า
ราคา 200 เยนต่อเที่ยวสำหรับผู้ใหญ่ และ 400 เยนสำหรับ one day pass
แน่นอนว่าเราซื้อ แบบนั่งได้ไม่จำกัดเที่ยว (one day pass) สามารถซื้อตั๋วได้บนรถ จากคนขับรถค่ะ
ป้ายรถบัส มีลักษณะตามภาพนี้ มันคือใบเมเปิ้ลอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองฮิโรชิม่า
ที่แรกที่เราจะไปคือ สวน Shukkeien
จุดเด่นของสวนนี้คือ สะพานโค้ง อันนี้ค่ะ
สวยงาม แบบเงียบสงบ เพราะไม่ค่อยมีคน O.o ก็ดีนะไม่มีคนมาบังมุม 55+
อากาศก็ร้อนไม่ต่างจากเมื่อวาน แดดแรงมาก แบบนี้เที่ยวไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่นะ - -!
จบที่แรก ก็มารอขึ้นบัส
ที่นี่ก็มีรถรางนะ ^^
สถานที่ต่อไปคือ ปราสาทฮิโรชิม่า ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ณ จุดนั้นบอกได้คำเดียวว่า ธรรมดามาก อาจเพราะเราเห็นที่อื่นที่สวยกว่ามาก่อน
หรืออีกเหตุผลหนึ่งคือ มันร้อนมากๆๆๆๆ เดินจากป้ายรถบัสมาตั้งไกล เพื่อสิ่งนี้ - -;
เสียเวลากับที่นี่นานหน่อย ไม่ใช่เพราะปลาบปลื้ม แต่เพราะมันร้อน เลยนั่งพัก _ _;
แล้วก็เดินทางต่อ
นี่คือ บรรยากาศบนรถบัส ขึ้นแล้วไม่อยากจะลง แอร์เย็นจนจะหลับ Zzz..
ป้ายต่อไปคือ จุดท่องเที่ยวหลักของทุกคนที่มาฮิโรชิม่า
"A-Bomb dome"
สิ่งก่อสร้างที่หลงเหลือมาจาก การทิ้งระเบิดปรมาณู สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ความทรงจำที่แสนเศร้า และเจ็บปวดของเมืองนี้ มีความหนาแน่นมากบริเวณนี้
ที่นี่เป็น มรดกโลก ที่เศร้าที่สุดในญี่ปุ่น T^T
ใกล้ๆกัน เป็นบริเวณสวน Peace Memorial park และ Peace Memorial museum
ที่นี่จะมีพิธีรำลึก ทุกๆวันที่ 6 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันที่ถูกทิ้งระเบิด
ภาพนี้ถ่ายจากบนพิพิธภัณฑ์
ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ เพียง 50 เยน ถ่ายรูปได้ แต่จะไม่โพสที่blog นี้ เผื่อคุณผู้อ่านมีโอกาสเข้าไปชม
อยากให้สัมผัสด้วยตัวคุณเอง เรื่องราวที่จัดแสดงมันสามารถเรียก น้ำตา จากคุณได้
ขอให้ ผู้เสียชิวิต จากสงครามครั้งนั้นได้รับรู้ว่า พวกคุณไม่ได้จากไปโดยเปล่าประโยชน์
ลูกหลานคุณ ยังดำเนินชิวิตอยู่อย่างปกติสุข และคิดถึงพวกคุณเสมอ
ขอให้โลกนี้ไม่มีสงคราม -/\-
หลังจากเข้าถึงฮิโรชิม่าอย่างลึกซึ้งแล้ว ก็ได้เวลาโบกมือลา หวังว่าเราจะได้พบกันอีก
เดินทางมาสถานีฮิโรชิม่า เอาสัมภาระออกจากล็อกเกอร์ แล้วขึ้นรถไฟไปสถานี โอคายาม่า
พวกเราจะกลับโตเกียวด้วย บัสกลางคืน เพราะราคาไม่แพง แต่เนื่องจากที่ฮิโรชิม่ารถเต็มเราเลยต้องมาขึ้นที่โอคายาม่าแทน
ออกจากโอคายาม่า 19:45 น. หลับๆตื่นๆ มาถึงโตเกียว 6:30 น. กลับห้องไปนอนต่อ
เจอกันบทความหน้าจ้า. ^^/"
ปล สรุปค่าใช้จ่าย
- ตั๋ว 18 จำนวนสองใบ 23,000 เยน
- ค่ารถไฟจ่ายเพิ่มสองคนวันที่สาม 7,020 เยน
- ค่าบัสกลับโตเกียว 5,800 เยน/คน
- ค่าเข้าสถานที่ต่างๆประมาณ 900 เยน/คน
- ค่าที่พักสองคืน 7,095 เยน/คน
- บัส Meipuru พาส 400 เยน/คน
รวม 21,700 เยน/คน
ทั้งนี้ไม่รวมค่าTaxi ค่ากิน และของฝากนะจ๊ะ
เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายกับสถานที่ที่ไปเที่ยว มันคุ้มมากๆขอบอก ^^.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น