เมื่อเด็กน้อยมาอยู่ป่า @Forest Kindergarten
Forest Kindergarten คืออะไร ?
.....
ก่อนอื่นต้องอธิบายคำสำคัญของบทความนี้กันก่อน
Kindergarten เป็นคำจากภาษาเยอรมัน หมายถึง การเรียนระดับอนุบาล
Forest Kindergarten เป็นรูปแบบหนึ่งของการเรียนระดับอนุบาลที่นำเด็กๆมาเรียนรู้นอกห้องเรียน อยู่กับธรรมชาติ เล่นกับของเล่นที่หาได้ในธรรมชาติ หรือประดิษฐ์ขึ้นเอง เรียนรู้ และได้รับประสบการณ์ต่างๆ โดยปราศจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย
เหตุที่เขียนเรื่องนี้ก็เพราะว่าได้มีประสบการณ์ตรง จากการไปดูงานที่ประเทศออสเตรีย (No kangaroos in Austria นะจ๊ะ^^) ภายใต้การดูแลจัดการของหน่วยงานทางป่าไม้ ÖBf (Österreichische Bundesforste)
Forest Kindergarten ที่นี่ก่อตั้งมาเมื่อปี 2007 รับเด็กน้อยอายุระหว่าง 3-6 ขวบ
กลุ่มละประมาณ 20 คน
เพื่อมาเรียนรู้ เล่น สำรวจ ค้นคว้า หาประสบการณ์กับธรรมชาติ เด็กๆจะเล่นอยู่ในป่ากันช่วงเช้า มีคุณครูประมาณ 3 คนคอยดูแล ถ้าหากวันไหนฝนตก หรือสภาพอากาศไม่ดี ก็จะอยู่กันในตู้สินค้านี้ ที่ถูกดัดแปลงให้เป็นห้องเรียนสำหรับเด็กๆ
โดยรวมแล้ว บรรยากาศก็เหมือนอยู่ในสวนเด็กเล่น เด็กๆเล่นกันตามประสา
ขุดดิน เล่นขายของ วิ่งซุกซน ฟังนิทาน ปลูกผัก ประดิษฐ์ของเล่น ฯลฯ
ความสบายใจ สุขใจ จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เห็นเด็กๆ เล่นอยู่กลางแจ้ง...^^
ไม่ใช่ตามห้างสรรพสินค้า หรือ เกมเซ็นเตอร์ ต่างๆ
ถามว่าเด็กๆ เหล่านี้ได้อะไรจากที่นี่...
จริงๆ ไม่ได้คำตอบอะไรจากเด็กๆ เพราะเค้าพูดภาษาอังกฤษกันไม่ได้
และก็คงเป็นคำถามที่ยากเกินกว่าที่เด็กๆจะตอบ
แต่เราสังเกตและเข้าใจได้.....
ประสบการณ์ การเรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติ ที่ไม่ได้ดูจากรูปถ่าย หรือฟังจากคุณครูเล่า
.....แต่สัมผัสได้จริง
แม้ว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมากมาย ทำให้ระบบการเรียนเปลี่ยนไปมาก
เด็กๆ อาจเรียนจาก e-learning เรียนจากการใช้นิ้วคลิ๊กๆ เพื่อหาข้อมูล หรือคำตอบ
การคิดเอง เขียนเอง น้อยลง สมาธิสั้น เลียนแบบพฤติกรรมตามในเกมที่เล่น ฯลฯ
ไม่ใช่ว่าเทคโนโลยีไม่ดีนะ แต่มันอาจจะยังไม่เหมาะสมกับเด็กเล็กๆในวัยเรียนรู้แบบนี้ (บางคนอาจไม่เห็นด้วยกับความคิดเราก็ได้นะ ^^)
กับตัวเองแล้วตอนนี้บางครั้งก็โดนเทคโนโลยีเล่นงานเหมือนกัน
เข้าอินเตอร์เนตหาข้อมูล แล้วเลยเถิดออกอ่าวประจำ เหมือนว่าสมาธิจะสั้นลง
จดจ่ออยู่กับเรื่องหนึ่งแปปๆ ก็กระโดดไปอีกเรื่องหนึ่งเฉย - -" หรือเราเป็นคนเดียวเนี่ย 55+
กลับมาๆ คนเขียนจะพาออกอ่าวล่ะ ฮ่า ฮ่า...
กับแนวความคิด Forest Kindergarten ในเมืองไทย
อาจจะดูเป็นไปได้ยากหรือป่าวนะ ไม่รู้ว่าผู้ปกครองทั้งหลายจะยอมให้เด็กๆเข้าป่าไหม
แต่ถ้าเป็นการวิ่งเล่น ออกกำลังกาย เล่นกลางแจ้ง ตามสวนของโรงเรียน(หลายโรงเรียนไม่มีสวน เศร้าใจT_T) หรือสวนสาธารณะ ก็น่าจะเป็นไปได้นะเออ ^^
ธรรมชาติ ป่าไม้ เป็นเรื่องที่ควรปลูกฝังลูกหลาน
เพราะเราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีป่า แต่เราอยู่ได้ถ้าไม่มีคอมพิวเตอร์.
.....
Kindergarten เป็นคำจากภาษาเยอรมัน หมายถึง การเรียนระดับอนุบาล
Forest Kindergarten เป็นรูปแบบหนึ่งของการเรียนระดับอนุบาลที่นำเด็กๆมาเรียนรู้นอกห้องเรียน อยู่กับธรรมชาติ เล่นกับของเล่นที่หาได้ในธรรมชาติ หรือประดิษฐ์ขึ้นเอง เรียนรู้ และได้รับประสบการณ์ต่างๆ โดยปราศจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย
เหตุที่เขียนเรื่องนี้ก็เพราะว่าได้มีประสบการณ์ตรง จากการไปดูงานที่ประเทศออสเตรีย (No kangaroos in Austria นะจ๊ะ^^) ภายใต้การดูแลจัดการของหน่วยงานทางป่าไม้ ÖBf (Österreichische Bundesforste)
Forest Kindergarten ที่นี่ก่อตั้งมาเมื่อปี 2007 รับเด็กน้อยอายุระหว่าง 3-6 ขวบ
กลุ่มละประมาณ 20 คน
เพื่อมาเรียนรู้ เล่น สำรวจ ค้นคว้า หาประสบการณ์กับธรรมชาติ เด็กๆจะเล่นอยู่ในป่ากันช่วงเช้า มีคุณครูประมาณ 3 คนคอยดูแล ถ้าหากวันไหนฝนตก หรือสภาพอากาศไม่ดี ก็จะอยู่กันในตู้สินค้านี้ ที่ถูกดัดแปลงให้เป็นห้องเรียนสำหรับเด็กๆ
โดยรวมแล้ว บรรยากาศก็เหมือนอยู่ในสวนเด็กเล่น เด็กๆเล่นกันตามประสา
ขุดดิน เล่นขายของ วิ่งซุกซน ฟังนิทาน ปลูกผัก ประดิษฐ์ของเล่น ฯลฯ
ความสบายใจ สุขใจ จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เห็นเด็กๆ เล่นอยู่กลางแจ้ง...^^
ไม่ใช่ตามห้างสรรพสินค้า หรือ เกมเซ็นเตอร์ ต่างๆ
ถามว่าเด็กๆ เหล่านี้ได้อะไรจากที่นี่...
จริงๆ ไม่ได้คำตอบอะไรจากเด็กๆ เพราะเค้าพูดภาษาอังกฤษกันไม่ได้
และก็คงเป็นคำถามที่ยากเกินกว่าที่เด็กๆจะตอบ
แต่เราสังเกตและเข้าใจได้.....
ประสบการณ์ การเรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติ ที่ไม่ได้ดูจากรูปถ่าย หรือฟังจากคุณครูเล่า
.....แต่สัมผัสได้จริง
แม้ว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมากมาย ทำให้ระบบการเรียนเปลี่ยนไปมาก
เด็กๆ อาจเรียนจาก e-learning เรียนจากการใช้นิ้วคลิ๊กๆ เพื่อหาข้อมูล หรือคำตอบ
การคิดเอง เขียนเอง น้อยลง สมาธิสั้น เลียนแบบพฤติกรรมตามในเกมที่เล่น ฯลฯ
ไม่ใช่ว่าเทคโนโลยีไม่ดีนะ แต่มันอาจจะยังไม่เหมาะสมกับเด็กเล็กๆในวัยเรียนรู้แบบนี้ (บางคนอาจไม่เห็นด้วยกับความคิดเราก็ได้นะ ^^)
กับตัวเองแล้วตอนนี้บางครั้งก็โดนเทคโนโลยีเล่นงานเหมือนกัน
เข้าอินเตอร์เนตหาข้อมูล แล้วเลยเถิดออกอ่าวประจำ เหมือนว่าสมาธิจะสั้นลง
จดจ่ออยู่กับเรื่องหนึ่งแปปๆ ก็กระโดดไปอีกเรื่องหนึ่งเฉย - -" หรือเราเป็นคนเดียวเนี่ย 55+
กลับมาๆ คนเขียนจะพาออกอ่าวล่ะ ฮ่า ฮ่า...
กับแนวความคิด Forest Kindergarten ในเมืองไทย
อาจจะดูเป็นไปได้ยากหรือป่าวนะ ไม่รู้ว่าผู้ปกครองทั้งหลายจะยอมให้เด็กๆเข้าป่าไหม
แต่ถ้าเป็นการวิ่งเล่น ออกกำลังกาย เล่นกลางแจ้ง ตามสวนของโรงเรียน(หลายโรงเรียนไม่มีสวน เศร้าใจT_T) หรือสวนสาธารณะ ก็น่าจะเป็นไปได้นะเออ ^^
ธรรมชาติ ป่าไม้ เป็นเรื่องที่ควรปลูกฝังลูกหลาน
เพราะเราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีป่า แต่เราอยู่ได้ถ้าไม่มีคอมพิวเตอร์.
.JPG)
ชอบแนวความคิดนี้
ตอบลบ